1. ชื่อโครงการ: โครงการด้านสายโปรแกรมเมอร์ (Full Stack Developer)
2.หลักการและเหตผล
การสร้าง Portfolio เป็นเครื่องมือสำคัญในการสะท้อนทักษะ ความสามารถ และศักยภาพของนักเรียน โดยเฉพาะนักเรียนที่มีความสนใจในด้านการพัฒนาโปรแกรมและต้องการก้าวเข้าสู่เส้นทางการศึกษาต่อด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดทำ Portfolio ด้านการเป็นนักพัฒนา Full Stack Developer ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผลงานที่ได้เรียนรู้และสร้างสรรค์มาอย่างต่อเนื่องเป็นที่ประจักษ์แก่ผู้ประเมิน แต่ยังเป็นการเตรียมความพร้อมให้นักเรียนสามารถเข้าสู่การศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นได้อย่างมั่นใจ
การจัดกิจกรรมออกค่ายนี้จึงมุ่งเน้นให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาได้มีโอกาสพัฒนาทักษะด้าน Full Stack Development ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานไปจนถึงขั้นสูง ครอบคลุมทั้งการพัฒนา Frontend และ Backend ตลอดจนการทำงานบนระบบคลาวด์ เพื่อสร้างประสบการณ์การพัฒนาโปรแกรมอย่างเป็นระบบ การจัดทำ Portfolio ที่สื่อถึงความสามารถนี้จะช่วยให้นักเรียนสามารถแสดงศักยภาพและความมุ่งมั่นในการเป็นนักพัฒนาโปรแกรมได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีโอกาสสะสมผลงานที่สร้างขึ้นจริงในการทำกิจกรรม ซึ่งจะกลายเป็นหลักฐานสำคัญในการแสดงทักษะและความรู้ประกอบการสมัครเข้าศึกษาต่อในสาขาที่เกี่ยวข้องในระดับมหาวิทยาลัย
กิจกรรมนี้ยังออกแบบให้เหมาะสมกับนักเรียนในยุคดิจิทัล ที่การเรียนรู้ผ่านการลงมือทำจริงเป็นสิ่งสำคัญในการฝึกทักษะและพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้นักเรียนยังจะได้พัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีม การแก้ไขปัญหา การสื่อสาร และการออกแบบ ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญในการเป็น Full Stack Developer มืออาชีพ การมี Portfolio ที่พร้อมใช้งานในระดับมัธยมจะเป็นการปูทางให้เยาวชนที่สนใจในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการพัฒนาซอฟต์แวร์มีโอกาสในการศึกษาต่อและพัฒนาตนเองสู่ความสำเร็จในอนาคต
3.ที่มาและความสำคัญ
ปัจจุบันเทคโนโลยีและการพัฒนาซอฟต์แวร์มีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจและการพัฒนาสังคมในหลายด้าน สาขาวิชาด้านการพัฒนาโปรแกรมและเทคโนโลยีสารสนเทศจึงเป็นที่ต้องการสูงทั้งในระดับการศึกษาและในตลาดแรงงาน เพื่อให้เยาวชนมีความพร้อมและพื้นฐานที่มั่นคงสำหรับการก้าวเข้าสู่เส้นทางอาชีพในด้านนี้ การเตรียมความพร้อมตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาผ่านกิจกรรมค่ายการพัฒนาโปรแกรมแบบ Full Stack Developer จึงถือเป็นสิ่งสำคัญ
การจัดทำ Portfolio ที่สะท้อนถึงทักษะและความรู้ทางด้านการพัฒนาโปรแกรมจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับนักเรียนที่ต้องการศึกษาต่อในสาขาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี การมี Portfolio ที่เต็มไปด้วยผลงานจริงที่ได้เรียนรู้และพัฒนาผ่านการทำค่าย จะช่วยให้นักเรียนสามารถนำเสนอศักยภาพและความมุ่งมั่นของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ในการแสดงให้เห็นถึงความรู้ ความเข้าใจ และทักษะด้านการพัฒนา Full Stack ที่เป็นที่ต้องการในยุคดิจิทัล
กิจกรรมค่ายนี้ยังมีความสำคัญในการสร้างโอกาสให้นักเรียนได้ฝึกฝนการทำงานร่วมกับผู้อื่น ฝึกทักษะการแก้ปัญหา และการคิดเชิงระบบ ทั้งนี้ การพัฒนา Full Stack ครอบคลุมทักษะหลายด้าน ตั้งแต่การพัฒนา Frontend ที่ช่วยให้ผู้ใช้เห็นและใช้งานเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันได้ ไปจนถึง Backend ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ระบบทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้ การสร้าง Portfolio ด้วยผลงานในลักษณะนี้จะทำให้นักเรียนสามารถแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำงานเชิงลึกและกว้าง ซึ่งเป็นที่ต้องการของหลักสูตรและสถาบันการศึกษาชั้นนำ
นอกจากนี้ การมี Portfolio ที่สื่อถึงความสามารถในการพัฒนาโปรแกรมอย่างครบถ้วนจะช่วยให้นักเรียนมีความได้เปรียบในการสมัครเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยในสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ และการพัฒนาซอฟต์แวร์ อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ค้นหาตนเองในด้านที่สนใจ พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมในการพัฒนาเส้นทางอาชีพในอนาคต
4.วัตถุประสงค์ :ของการจัดกิจกรรมออกค่าย Portfolio Camp สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษา ด้านการพัฒนาโปรแกรม Full Stack Developer
- เพื่อให้นักเรียนมีทักษะและความเข้าใจพื้นฐานในด้านการพัฒนาโปรแกรม Full Stack ทั้งส่วน Frontend และ Backend รวมถึงการทำงานร่วมกันของทั้งสองส่วน
- เพื่อพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบและการทำงานร่วมกับผู้อื่นผ่านการทำงานเป็นทีมในสภาพแวดล้อมการพัฒนาโปรแกรมจริง
- เพื่อให้นักเรียนสามารถสร้างและนำเสนอ Portfolio ที่สะท้อนถึงศักยภาพและความรู้ความสามารถในด้านการพัฒนาโปรแกรม เพื่อใช้ประกอบการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย
- เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการทำงานบนแพลตฟอร์มคลาวด์ การใช้งาน API และการทำ Continuous Integration/Continuous Deployment (CI/CD) ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญในวงการพัฒนาซอฟต์แวร์
- เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้นักเรียนในการนำเสนอตนเองและผลงาน โดยใช้ทักษะการสื่อสารและการออกแบบ Portfolio ให้โดดเด่น
- เพื่อให้นักเรียนมีโอกาสค้นหาความสนใจและเส้นทางการศึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการพัฒนาซอฟต์แวร์ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการศึกษาต่อและการเตรียมตัวสู่เส้นทางอาชีพในอนาคต
5. กำหนดการ
กิจกรรมค่ายจะเริ่มตั้งแต่เวลา 9.00 น. ถึง 17.30 น. ของทุกวัน โดยมีการจัดตารางเรียนและกิจกรรมตามหัวข้อต่าง ๆ เพื่อให้ครอบคลุมเนื้อหาสำคัญในการพัฒนาโปรแกรมแบบ Full Stack ครบทั้ง 3 วัน ดังนี้:
วันแรก: การพัฒนา Frontend และการออกแบบ UI/UX
9.00-10.30 น. – แนะนำพื้นฐาน HTML และ CSS
เริ่มต้นด้วยการเรียนรู้การใช้งาน HTML และ CSS เพื่อสร้างโครงสร้างและสไตล์ของหน้าเว็บเบื้องต้น
10.30-10.45 น. – พักเบรกเช้า
10.45-12.00 น. – การออกแบบ UI/UX และแนวคิดในการสร้างเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย
เรียนรู้พื้นฐานการออกแบบ UI/UX รวมถึงวิธีการสร้างหน้าเว็บที่สวยงามและมีประสิทธิภาพ
12.00-13.00 น. – พักทานอาหารกลางวัน
13.00-14.30 น. – การพัฒนาและจัดการ Layout ด้วย Flexbox และ Grid
ฝึกใช้ Flexbox และ CSS Grid เพื่อการจัดวางหน้าเว็บที่เป็นระเบียบและยืดหยุ่น
14.30-14.45 น. – พักเบรกบ่าย
14.45-17.30 น. – การทำงานร่วมกับ JavaScript (พื้นฐาน)
แนะนำ JavaScript ซึ่งเป็นภาษาโปรแกรมสำหรับพัฒนาเว็บแบบโต้ตอบ โดยเน้นที่การสร้างฟังก์ชันพื้นฐานและการจัดการ DOM
วันที่สอง: การพัฒนา Backend และการทำงานกับฐานข้อมูล
9.00-10.30 น. – แนะนำ Node.js และการตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์เบื้องต้น
แนะนำการใช้งาน Node.js เพื่อสร้างและจัดการเซิร์ฟเวอร์ รวมถึงการเขียน API เบื้องต้น
10.30-10.45 น. – พักเบรกเช้า
10.45-12.00 น. – พื้นฐานการทำงานกับ Express.js และการสร้าง API
สอนการใช้งาน Express.js ซึ่งเป็น framework สำหรับการสร้าง API และจัดการเส้นทางในแอปพลิเคชัน
12.00-13.00 น. – พักทานอาหารกลางวัน
13.00-14.30 น. – การทำงานกับฐานข้อมูล (MongoDB)
แนะนำ MongoDB และการเชื่อมต่อฐานข้อมูลกับ Node.js เพื่อจัดเก็บและเรียกข้อมูล
14.30-14.45 น. – พักเบรกบ่าย
14.45-17.30 น. – การสร้าง CRUD Operations
ฝึกการสร้างฟังก์ชัน CRUD (Create, Read, Update, Delete) บนฐานข้อมูล รวมถึงการจัดการข้อมูลและการทำงานร่วมกับ API
วันที่สาม: การรวม Frontend และ Backend การทำ CI/CD และการสร้าง Portfolio
9.00-10.30 น. – การเชื่อมต่อ Frontend และ Backend
สอนการเชื่อมต่อ Frontend ที่พัฒนาขึ้นในวันแรกกับ Backend ที่สร้างขึ้นในวันที่สอง โดยใช้ API สำหรับการส่งข้อมูลระหว่างเซิร์ฟเวอร์และคลายเอนท์
10.30-10.45 น. – พักเบรกเช้า
10.45-12.00 น. – การทำ Continuous Integration/Continuous Deployment (CI/CD)
แนะนำแนวคิดและการใช้เครื่องมือพื้นฐานในการทำ CI/CD เพื่อให้แอปพลิเคชันสามารถอัปเดตและปรับปรุงอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
12.00-13.00 น. – พักทานอาหารกลางวัน
13.00-14.30 น. – การทำงานบนแพลตฟอร์มคลาวด์และการ Deploy แอปพลิเคชัน
ฝึกใช้แพลตฟอร์มคลาวด์ เช่น Heroku หรือ Netlify ในการ Deploy แอปพลิเคชันและทำให้สามารถเข้าถึงได้ผ่านอินเทอร์เน็ต
14.30-14.45 น. – พักเบรกบ่าย14.45-17.30 น. – สรุปผลงานและจัดทำ Portfolio
นักเรียนจะสรุปผลงานทั้งหมดที่ได้ทำใน 3 วัน และเรียนรู้วิธีการสร้าง Portfolio เพื่อให้เป็นหลักฐานประกอบการสมัครเรียนหรือทำงาน
คลิกเพื่อลงทะเบียน และตรวจสอบรายชื่อที่ผ่านการคัดเลือก